10/13/2552

คณะวิทยาการสารสนเทศ

ปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ และพันธกิจ


ปรัชญา
วิทยาการสารสนเทศนำปัญญาสู่สังคม

ปณิธาน
คณะวิทยาการสารสนเทศ มุ่งมั่นในการผลิตบัณฑิตและมหาบัณฑิตทางด้านวิทยาการสารสนเทศ ที่มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาชีพ ในระดับสากล มีคุณธรรมและจริยธรรม ตามความต้องการของสังคมและประเทศชาติ

วิสัยทัศน์
คณะวิทยาการสารสนเทศมีความเป็นเลิศด้านวิชาการ งานวิจัยและงานสร้างสรรค์ในระดับสากล

พันธกิจ

1. ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้คู่คุณธรรม
2. พัฒนางานวิจัยและงานสร้างสรรค์คุณภาพระดับสากล
3. ให้บริการวิชาการที่ตอบสนองความต้องการของสังคม
4. ส่งเสริม อนุรักษ์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอีสาน
5. บริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล

http://www.informatics.msu.ac.th/aboutIT.php?id=2

GUEST BOOK

I THINK I DO!!!!

รบกวนฝากความเห็นให้ด้วยนะคะ

10/05/2552

ทะเลแหวก จังหวัด กระบี่

ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่





เป็นสถานที่ยอดนิยมของกระบี่ อยู่ทางทิศใต้ของ อ่าวพระนาง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตรทำให้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมไม่มากนักเมื่อมองจากชายฝั่งจะเห็นทรายขาวได้แต่ไกล บริเวณรอบๆเกาะจะมีแนวปะการังหลากหลายชนิด น้ำทะเลใสสะอาดทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่น่าสนใจที่สามารถแวะมาเที่ยวชมเกือบตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดปรากฎการณ์ในช่วงน้ำลงบริเวณ เกาะทับเกาะหม้อ และ เกาะไก่ จะเชื่อมต่อกันโดยแนวทรายทำให้เกิดทัศนยภาพที่สวยงาม ดูแปลกตา เรียกว่า "ทะเลแหวก" ซึ่งขณะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอยู่ระหว่างเกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งเกิดจากสันทรายที่โผล่พ้นน้ำเวลาน้ำลด ทำให้เกิดภาพที่น้ำทะเลแบ่งแยกออกจากกันเป็น 2 ฝั่ง นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์อีกแห่งหนึ่ง อยู่ระหว่างเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะสามเกะ เกาะหม้อ และเกาะทับ ตั้งอยู่ใกล้กันจนเกิดเป็นสันทรายขึ้นทำให้เชื่อมเกาะทั้ง 3 นี้ถึงกันได้ ที่สำคัญทะเลแหวกนี้มีหาดทรายที่ขาวสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่นักท่องเที่ยวควรมาชมในช่วงเวลาที่น้ำลดลงต่ำสุด ในช่วงก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ตั้งแต่เดือนพฤศจิการยน-ต้นพฤษภาคม จะเป็นช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวที่ทะเลแหวกแห่งนี้มากที่สุด


การเดินทางไป ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่
จากอ่าวนาง จะมีเรือเช่าเหมาลำให้บริการพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมทะเลแหวก หรือ หมู่เกาะปอดะซึ่งการเดินทางไปยัง ทะเลแหวก นี้จะไม่มีเรือโดยสารแบบประจำทางจะต้องเช่าเรือเหมาลำซึ่งมีให้เลือกทั้ง เรือหางยาวช้าหน่อยแต่ได้บรรยากาศ หรือเรือ Speed boad หากเน้นความเร็วในการเดินทาง

กิจกรรมที่น่าสนใจในทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่
· ถ่ายภาพชมทิวทัศน์ของทะเลแหวก ที่เกิดจากสันทรายที่เชื่อมกันระหว่างเกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่
· เล่นน้ำ หยอกล้อกับฝูงปลาที่ว่ายมาทักทายเหล่านักท่องเที่ยวอยู่เสมอ


ค่าใช้จ่ายสำหรับการมาเที่ยว ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่
· แพคเก็จเดินทางโดยเรือหางยาว ราคาท่านละ 350 - 450 บาท
· แพคเก็จเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ท ราคาท่านละ 800 - 1,000 บาท

แผนที่ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะไก่


โรงแรมซันดา รีสอร์ท (Sunda Resort)




ณ หาดอ่าวนาง เราพร้อมต้อนรับท่านด้วยห้องพัก 30 ห้อง ห้องพักมีระเบียงส่วนตัวทุกห้อง พร้อมสรรพกับการบริการที่เป็นกันเอง สิ่งอำนวย-ความสะดวกครบครัน เพียง 30 นาที จากสนามบินกระบี่ โดยรถยนต์ และเพียง 10 นาที ท่านก็จะสามารถท่องเที่ยวในยามค่ำคืน ช็อปปิ้ง สถานที่บันเทิงต่างๆ และ นั่งทานอาหารเย็นในบรรยากาศโรแมนติก และจากรีสอร์ทสามารถเดินไปยังหาดนพรัตน์ธาราได้

ติดต่อ

สถานที่ตั้ง หมู่ 3 อ่าวนาง อ.เมือง กระบี่

โทรศัพท์ (662)186-3186

โทรสาร (662)186-3182

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก
- ทุกห้องพักมีระเบียงส่วนตัว - ทีวี
- ตู้เย็น - เครื่องปรับอากาศ
- ห้องน้ำวิวธรรมชาติ - ร้านอาหาร
- โทรศัพท์ - ตู้เซฟส่วนตัว
- Connecting room - ศูนย์สอบถามเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
- รถรับ-ส่ง (เสียค่าบริการเพิ่ม) - อินเทอร์เน็ต
- สระว่ายน้ำ



Weekday : วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดี

Weekend : วันศุกร์ - วันเสาร์

ราคาที่ห้องพัก
Pool Side (DBL&TWN) 1,700 บาท

Garden View (TWN) 1,300 บาท

Canal Side (DBL&TWN) 1,650 บาท

เตียงเสริม 500 บาท
** ราคาห้องพักรวมค่าบริการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอาหารเช้าแล้ว
** เด็กอายุต่ำกว่า 12 พักกับผู้ปกครอง ไม่มีเตียงเสริม เสียค่าอาหารเช้า 100 บาท/คน
** ราคาพิเศษ เริ่มวันที่ 1 พฤษภาคม –31 ตุลาคม 2552

- Consecutively 3 nights stay, pay only 2 nights
- Consecutively 5 nights stay, pay only 3 nights
- Consecutively 7 nights stay, pay only 5 nights
- Consecutively 9 nights stay, pay only 7 nights

** คืนที่พักฟรี ไม่มีอาหารเช้า (ค่าอาหารเช้า 200 บาท/ท่าน)

ข้อมูลการเดินทาง


การเดินทางมายังจังหวัดตรังนั้น นอกจากจะโดย รถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังสามารถเดินทาง โดยบริการขนส่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ทางรถไฟ, รถทัวร์, หรือโดยเครื่องบิน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้*หมายเหตุ: การเดินทางตามตารางข้างล่างนี้เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นกรุณาตรวจสอบรอบเรือในโปรแกรมของท่านก่อนสำรองการเดินทาง


ทางรถไฟ
เนื่องจากรถเร็วจะ ต้องจอดเกือบทุกสถานีตลอดทาง ทำให้รถไฟเที่ยวนี้จะมาสายเสมอเพื่อให้ทันรอบเรือที่รวมในแพ็คเกจปกติ กรุณาเลือกจองเฉพาะรถด่วนเท่านั้นหมายเลขติดต่อ 0-2233-7010, 0-2223-7020

ตารางเดินทางรถไฟ


กรุงเทพฯ - ตรัง
รถด่วนออก 17.00 น. ถึง 7.35 น.
รถเร็วออก 18.20 น. ถึง 10.15 น.

ตรัง - กรุงเทพฯ
รถด่วนออก 17.30 น.ถึง 8.35 น.
รถเร็วออก 13.45 น. ถึง 6.00 น.

หมายเหตุ: จองล่วงหน้าได้ 60 วัน
การยกเลิก: ก่อนเดินทาง 4 วัน ได้เงินคืน 80% ภายในวันเดินทาง หัก 50%


อัตราค่าโดยสารรถไฟ

ขั้น 1 ห้องแอร์ส่วนตัว 1,280 บาท
ชั้น 2 ปรับอากาศ
รถเร็ว

เตียงบน 611 บาท
เตียงล่าง 661 บาท


รถด่วน
เตียงบน 661 บาท
เตียงล่าง 731 บาท


พัดลม
รถเร็ว
เตียงบน 471 บาท
เตียงล่าง 521 บาท


รถด่วน
เตียงบน 521 บาท
เตียงล่าง 591 บาท


เก้าอี้พัดลม
รถเร็ว 371 บาท
รถด่วน 391 บาท

ชั้น3
รถเร็ว 195 บาท
รถด่วน 215 บาท


ทางเครื่องบิน

การบินไทย(TG) โทร. 0-2628-2000

PB Air (9Q) โทร. 0-2261-0020-5

Phuket Airlines (9R) โทร. 0-2679-8999

นกแอร์ (DD) โทร. 1318

กรุงเทพฯ - ตรัง

จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG251 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 9:00 น.ถึง 10:30 น.จันทร์,อังคาร,พุธ,ศุกร์ และวันอาทิตย์ เพิ่ม 1 เที่ยว เที่ยวบินที่ TG9Q3150(สายการบิน PB Air เครื่อง Jet 50 ที่นั่ง)ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 15:20 น. ถึง 16:50 ตรัง - กรุงเทพฯ

จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG252 ออกจากตรัง เวลา 11:10 น. ถึง 12:40 น.จันทร์,อังคาร,พุธ,ศุกร์ และวันอาทิตย์ เพิ่ม 1 เที่ยว เที่ยวบินที่ TG9Q3151(สายการบิน PB Air เครื่อง Jet 50 ที่นั่ง)ออกจากตรัง เวลา 17:10 น. ถึง 18:40 น.

ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับประมาณ 5,xxx บาทช่วงโปรโมชั่นอาจเหลือ 3,xxx - 4,xxx บาท
หรือท่านสามารถเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินไปจังหวัดกระบี่
กรุงเทพฯ - กระบี่
จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG249 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 8:05 น. ถึงกระบี่ 9:25น.จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ 9R346 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 8:00 น. ถึงกระบี่ 9:20น.


กระบี่ - กรุงเทพฯ
จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG260 ออกจากกระบี่เวลา 18:10 น. ถึงเวลา 19:30 น.จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG280 ออกจากกระบี่เวลา 21:20 น. ถึงเวลา 22:40 น.
โดยท่านที่เลือกเดินทางผ่านกระบี่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 400 บาทต่อเที่ยว (1 เที่ยวคือ กระบี่-ตรัง หรือ ตรัง-กระบี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2:30 ช.ม.)ราคานี้สำหรับขั้นต่ำ 6 ท่าน หากไม่ถึง 6 ท่าน คิดเหมาที่ 2,400 บาทต่อเที่ยว
หรือท่านสามารถเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินไปหาดใหญ่
กรุงเทพฯ - หาดใหญ่


จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG231 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 7:00 น. ถึงหาดใหญ่ 8:30น.


หาดใหญ่ - กรุงเทพฯ
จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ TG236 ออกจากหาดใหญ่เวลา 20:00 น. ถึงเวลา 21:30 น.

จันทร์ - อาทิตย์ เที่ยวบินที่ DD7117 ออกจากหาดใหญ่เวลา 21:20 น. ถึงเวลา 22:50 น.
โดยท่านที่เลือกเดินทางผ่านหาดใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 400 บาทต่อเที่ยว (1 เที่ยวคือ หาดใหญ่-ท่าเรือหาดยาว(ตรัง) หรือ ท่าเรือหาดยาว(ตรัง)-หาดใหญ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3:30 ช.ม.)

ราคานี้สำหรับขั้นต่ำ 7 ท่าน หากไม่ถึง 7 ท่าน คิดเหมาที่ 2,800 บาทต่อเที่ยว
ท่านสามารถเลือกเดินทางที่แตกต่างกันได้ เช่น

กรุงเทพฯ-กระบี่ แล้วกลับ ตรัง-กรุงเทพฯ หรือ

กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ แล้วกลับ ตรัง-กรุงเทพฯ หรือ

กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ แล้วกลับ กระบี่-กรุงเทพฯ หรือ

กรุงเทพฯ-ตรัง แล้วกลับ กระบี่-กรุงเทพฯ

CHIHUAHUA


ชิวาวา
ชิวาวาเป็นสุนัขที่ตัวเล็กที่สุดในโลกและไม่รู้ประวัติแน่ชัดบางคนเชื่อว่ามีต้นกำเนิดในเอเซีย(จีน)บ้างก็ว่ามาจากยุโรปแต่ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากไหนสุนัขพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสุนัขประจำประเทศเม็กซิโกจากการพบรูปปั้นสุนัขที่พบใน ชิ-เชน-ลิซา(chi-chen-ltza)โคลิมา(colima)และเมืองอื่นๆแถบทวีปอเมริกาทางใต้ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสุนัขชิวาวาในปัจจุบันมากประกอบกับคำว่า"chi"ในภาษาท้องถิ่นของอินเดียแดงหมายถึงสุนัขจึงดูเหมือนว่าบรรพบุรุษของชิวาวาได้เกิดในระยะเวลานั้นเป็นที่สังเกตว่าบรรพบุรุษของชาวแอสเท็ค(aztecs)ในเม็กซิโกคือชาวชิชิเมค(chichimec)มีสุนัขประมาณ75สายพันธุ์ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในชว่ง1875-1900และชิวาวาขนสั้นรุ่นใหม่ได้ถูกพบบริเวณพรมแดนของประเทศเม็กซิโกในชว่งเวลานั้นเช่นกันและมีการพบสุนัขลักษณะเหมือนชิวาวาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านวัลเล-เด-อัลเลเด(valle de allende)ทางใต้ของเมืองชิวาวา
ลักษณะทั่วไป = เป็นสุนัขขนาดเล็กมีการเคลื่อนไหวคลอ่งแคล่ววอ่งไวมีการแสดงออกที่น่ารักโครงสร้างกระชับสมสว่นขนาดสัดสว่น = น้ำหนักถ้าจะให้สมดุลกับสุนัขขนาดเล็กไม่ควรเกิน6ปอนด์ลำตัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมคอ่นข้างยาว(เมื่อวัดจากไหล่ไปยังตะโพก)กว่าความสูงเมื่อวัดจากตะโพกไปยังพื้นศรีษะ = กลมคล้ายลูกแอปเปิ้ลตั้งกลับหัวผิวหนังบริเวณกรามและแก้มควรตอบแนบติดกับกระดูกหู = ใบหูควรมีขนาดใหญ่ปลายหูคอ่นข้างแหลมเวลาตื่นตัวใบหูควรตั่งชันในยามปกติใบหูทั้ง2ข้างควรตั่งถ่างออกจากกันโดยฐานใบหูทำมุม45องศากับกระโหลกศรีษะตา = ตาโตแต่ไม่ควรโปนออกมามากตาทั้งสองข้างควรมีขนาดเท่ากันและอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากกันในระดับพอเหมาะนัยน์ตาควรมีสีดำสนิทส่องประกายแวววาวจมูกปาก = จมูกปากควรสั้นปลายปากคอ่นข้างกลมสีของจมูกอาจเป็นสีน้ำตาลหรือดำสำหรับชิวาวาที่มีขนสีครีมออกเหลืองหากจมูกมีสีชมพูอนุโลมได้ฟัน = ฟันหน้าควรขบกันได้สนิทเหมือนกรรไกรถ้าฟันบนยื่นออกมามากหรือฟันล่างยื่นออกมามากไม่เป็นที่ยอมรับคอและหัวไหล = ลำคอควรมีลักษณะเป็นเส้นโค้งสวยงามลาดเทเข้าหาไหล่เล็กน้อยสำหรับชิวาวาขนสั้นความสวยงามของลำคอสำคัณมากเนื่องจากมองเห็นได้อย่างชัดเจนสว่นชิวาวาขนยาวขนบริเวณลำคอควรยาวแต่ไม่ถึงกับยาวและดกหนามากหัวไหลที่ดีควรมีลักษณะราบเรียบและค่อยๆขยายออกกว้างรับกับขาหน้าทั้ง2ข้างกระดูกหัวไหล่ควรลาดเทลงหาแผ่นหลังแผ่นหลังและลำตัว = แผ่นหลังควรมีลักษณะเป็นเส้นตรงขนานกับพื้นความยาวของลำตัวมีมากกว่าความสูงเล็กน้อยโดยปกติชิวาวาเพศผู้จะมีลำตัวสั้นกว่าเพศเมียโครงสร้างลำตัวมีลักษณะค่อนข้างกลมไม่แบนแต่ไม่กลมเหมือนถังเบียร์ลำตัวครึ่งท่อนหลัง = จะตอ้งเต็มไปดว้ยมัดกล้ามเนื้อข้อศอกขาหลังเวลายืนตั้งอยู่ห่างจากกันในระดับพอเหมาะข้อศอกไม่ควรบิดเข้าหากันเวลาสุนัขเดินหรือวิ่งดูแข็งแกร่งเท้าไม่ปัดหาง = ต้องยาวพอเหมาะหางควรตั้งและมีลักษณะโค้งคล้ายหางของสุนัขพันธุ์ไทยหางดาบในกรณีที่สุนัขมีหางมว้นอนุโลมให้ปลายหางมว้นแตะแผ่นหลังได้แต่ห้ามเลยระดับแผ่นหลังลงมาขาและเท้า = ขาควรเหยียดตรงและตั้งขนานกันอุ้งเท้าควรมีขนาดเล็กนิ้วเท้าแยกออกจากกันแต่ไม่ถึงกับกางแบะออกเหมือนตีนเป็ดสีขน = สีขนมีได้ไม่จำกัดอาจเป็นสีเดียวทั้งตัวหรือมีมาร์คกิ้งหรือมีสีต่างๆได้น้ำหนัก = น้ำหนักที่เหมาะสมไม่ควรเกิน6ปอนด์หรือประมาณ2.73กิโล
จุดบกพร่องที่ถือว่าผิดมาตรฐาน
1. น้ำหนักเกินกว่า6
2. หางไม่มว้นขึ้นบนหลัง(หางตกหรือหางถูกตัดสั้น)
3. ใบหูไม่ตั้ง

MY FRIEND @ F-A-K-E @

แนะนำตัวค่ะ


พันธุ์ทิพย์ เจริญแก่นทราย ' ต่อ ' 50011212117 คณะวิทยาการสารสนเทศ สาขาสื่อสารมวลชน ( PR )
สร้างกริตเตอร์
| ฟังเพลง | เล่นเกมส์ | ซื้อ-ขาย

ต่อค่ะ


ดีค่ะ
แนะนำตัวนิสนึงนะค่ะ

ชื่อ พันธุ์ทิพย์ เจริญแก่นทราย
ชื่อเล่น ต่อ
เพศ หญิง
เกิด 18 กุมภาพันธ์ 2531
สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
มีพี่น้องรวม 2 คน ชาย 1 คน หญิง 1 คน
ภูมิลำเนา จังหวัดร้อยเอ็ด
สีที่ชอบ ดำ - ขาว
ไอดอล ดา- เอ็นโดรฟิน
ชอบ สุนัขชิวาวา
คติ อยู่กับปัจจุบันแล้วทำให้ดีที่สุด
คณะวิทยาการสารสนเทศ สาขาสื่อสารมวลชน ( การประชาสัมพันธ์ )
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
รหัสนิสิต 50011212117
E-Mail night_hamter@hotmail.com / favertortid@gmail.com

พ.ร.บ คอมพิวเตอร์

พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลัง และไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔)
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔
มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย
มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร
หมวด ๒พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด
(๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้
(๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
(๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่
๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้
(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว
(๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็วเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ(๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐานการทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้
มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลายหรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น
มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ นับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท
มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีมีอำนาจ ร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง
มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญ ของการประกอบกิจการ และการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ใบสมัครงาน

ใบสมัครงาน
(กรอกข้อมูลด้วยตัวท่านเอง)

ชื่อ-สกุล (นาย/นาง/นาง) นางสาว พันธุ์ทิพย์ เจริญแก่นทราย
Name English MISS PUNTIP CHAROENKEANSAI
สมัครงานตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์
เงินเดือน 20,000 บาท/เดือน

ประวัตส่วน
ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน 7 ถ. ปัทมานนท์ ต. ในเมือง อ. เมือง จังหวัด ร้อยเอ็ด 45000
ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ 7 ถ. ปัทมานนท์ ต. ในเมือง อ. เมือง จังหวัดร้อยเอ็ด 45000
วัน/เดือน/ปีเกิด 18 กุมภาพันธ์ 2531 อายุ 21 ปี
น้ำหนัก 45 กก. ส่วนสูง 160 ซม.
เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
บัตรประชาชนเลขที่ 14344712543
สถานภาพ โสด
ประวัติการศึกษา
ระดับการศึกษา กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 สาขาสื่อสารมวล เอกการประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาการสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ความสามารถทางภาษา
PHOTO SHOP
MICROSOFT WORD

ข้อมูลอื่น ๆ
1. ท่านมีความบกพร่องของร่างกาย หรือเป็นโรคติดต่อเรื้อรังที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือไม่
= ไม่มี
2. ท่านเคยเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือไม่
=ไม่เคย
3. สุขภาพโดยทั่วไปของท่าน
= สุขภาพแข็งแรง
4. ท่านเคยถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยทำผิดทางอาญาหรือไม่
=ไม่เคย
5. ท่านเคยถูกให้ออกจากงานด้วยกรณีใด ๆ หรือไม่
=ไม่เคย
6. ท่านมีเพื่อนหรือญาติที่ทำงานที่บริษัทนี้หรือไม่
=ไม่มี
ลงชื่อ ผู้สมัครSignature …………………........................…................
Applicant
(นางสาวพันธุ์ทิพย์ เจริญแก่นทราย )
วันที่Date ………………/………………/………………

คณะวิทยาการสารสนเทศ

ปรัชญา
วิทยาการสารสนเทศนำปัญญาสู่สังคม
ปณิธาน
คณะวิทยาการสารสนเทศ มุ่งมั่นในการผลิตบัณฑิตและมหาบัณฑิตทางด้านวิทยาการสารสนเทศ ที่มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาชีพ ในระดับสากล มีคุณธรรมและจริยธรรม ตามความต้องการของสังคมและประเทศชาติ
วิสัยทัศน์
คณะวิทยาการสารสนเทศมีความเป็นเลิศด้านวิชาการ งานวิจัยและงานสร้างสรรค์ในระดับสากล
พันธกิจ
1. ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้คู่คุณธรรม
2. พัฒนางานวิจัยและงานสร้างสรรค์คุณภาพระดับสากล
3. ให้บริการวิชาการที่ตอบสนองความต้องการของสังคม
4. ส่งเสริม อนุรักษ์ และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเภณีอีสาน
5. บริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล

ความเป็นมา
คณะวิทยาการสารสนเทศ ได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม อย่างเป็นทางการเมื่อ
วันที่1 มิถุนายน 2544 โดยใช้ชื่อว่า "โครงการจัดตั้งคณะวิทยาการสารสนเทศ" มีบุคลาก รในโครงการเริ่มแรกจำนวน 36 คน และได้มีมติจากการประชุมสภามหาวิทยาลัยครั้งที่ 4/2546 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2546 อนุมัติให้โครงการจัดตั้งคณะวิทยาการสารสนเทศ เปลี่ยนสถานะมาเป็นคณะวิทยาการสารสนเทศ เป็นคณะนอกระบบ จนถึงปัจจุบัน มีนิสิตเมื่อเริ่มก่อตั้งโครงการรวมทั้งสิ้นจำนวน 893 คน จำแนกเป็น 4 หลักสูตรคือ
1. หลักสูตรระดับปริญญาตรี สาขาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS)
2. หลักสูตรระดับปริญญาตรี สาขาสารสนเทศศาสตร์ (IS)
3. หลักสูตรระดับปริญญาตรี สาขาการสื่อสารมวลชน (MC)
4. หลักสูตรระดับปริญญาโท สาขาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ (LIS)
ในระยะเริ่มดำเนินงาน สำนักงานเลขานุการคณะวิทยาการสารสนเทศตั้งอยู่ ณ อาคารราชนครินทร์ ห้อง RN - 411 ชั้น 4 เป็นสำนักงาน ต่อมาในเดือนธันวาคม 2544 คณะวิทยาการสารสนเทศได้ย้ายจากที่ทำการชั่วคราว ห้อง
RN– 411 ไปยังกลุ่มอาคารสำนักวิทยบริการ อาคารบี ชั้น 3 จนถึงปัจจุบันซึ่งปัจจุบันได้เพิ่มและเปลี่ยน มีทั้งหมด
6 สาขา ได้แก่
1.สาขาสื่อนฤมิต NMD
2.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ICT
3.วิทยาการคอมพิวเตอร์ CS
4.การสื่อสารมวลชน MC
5.ภูมิสารสนเทศ GIS
6.สารสนเทศ IS

จิ๊นฮุ่ม

จิ๊นฮุ่ม



จิ้นฮุ่ม หรือ หมูฮุ่ม นั่นเอง สำหรับท่านที่ไม่ชอบหมูเปลี่ยนเป็น เนื้อวัวก็ได้ แต่ว่าต้องเคี่ยวนานกว่าเนื้อหมู
ส่วนผสม
เนื้อหมู 1 กิโล
ตะไคร้ 3 หัว (หั่นเป็นท่อนแล้วทุบ)
น้ำมัน 5 ชต.
น้ำเปล่า 1 ถ้วยครึ่ง
ใบมะกรูด
เครื่องแกง
ตะไคร้ 1 หัว (หั่นซอย)
รากผักชี 2-3 ราก (หั่น)
กะปิแกง 1 ชต.
พริกแห้ง 15-20 เม็ด
กระเทียม 3-4 กลีบ
หัวหอมแดง 3-4 หัว
ขมิ้น นิดนึง
วิธีทำ
1. โขลกเครื่องแกง เสร็จแล้ว/ ตั้งหม้อรึว่ากะทะ ใส่น้ำมัน
2. เอาหมูลงผัดกับเครื่องแกงเลย
3. จากนั้นเติมน้ำ แล้วคนให้ทั่ว ปิดฝา เคี่ยวประมาณ 1ชม. หรือ ช.มครึ่งเคี่ยวเนื้อเหมือนทำแก๋งฮังเล
4. เคี่ยว 20นาทีผ่านไป เอาตะไคร้ใส่เลยเจ้าคนให้ทั่วแล้วปิดฝาอีกที / ขยันมาเช๊คหมูว่า เนื้อเปื่อยนุ่มแล้วรึยัง ถ้าเปื่อยได้ที่แล้ว ก็ใส่น้ำปลา แล้วปรุงรส
5. จากนั้นใส่ใบมะกรูด แล้วปิดแก๊ส คนเนื้อให้เข้ากันอีกทีเป็นอันเสร็จ

ข้าวซอยไก่

ข้าวซอยไก่



คืออาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย เดิมเรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ เป็นอาหารที่คล้ายเส้นบะหมี่ ในน้ำซุปที่ใส่เครื่องแกง รสจัดจ้าน ในตำรับดั้งเดิม ข้าวซอยจะมีส่วนประกอบของเนื้อหมูหรือเนื้อไก่หรือเนื้อวัว มีเครื่องเคียงได้แก่
ผักกาดดอง หอมหัวแดง และมีเครื่องปรุงรส เช่น พริกผัดน้ำมัน น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ปัจจุบันอาจเพิ่มอาหารทะเลหรือเต้าหู้เป็นส่วนประกอบ อาหารจานนี้มักจะพบบ่อยก็แต่ทางภาคเหนือของไทย

เครื่องปรุง
บะหมี่
ไก่น่อง หรือไก่ชิ้น

เครื่องนำแกงข้าวซอย
พริกแกงแดง 1 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1 ถ้วย
นำซุปไก่ หรือนำเปล่าก็ได้ 1 ถ้วย
ผงกะหรี่ (curry powder) 1 ช้อนโต๊ะ
ผงขมิ้น (turmeric powder) 1/2 ช้อนชา
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1 ช้อนชา
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

ของทานเพิ่มเวลาเสริ์ฟ
หอมซอย
พริกป่นนำมัน
ผักกาดดองซอย
น้ำมะนาว

วิธีทำ
1. นำเนื้อไก่มาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอประมาณ จากนั้น ปลอกเปลือกขิง นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในครกโขลกให้ละเอียดแล้วจึงนำน้ำพริกแกงเผ็ดใส่ลงไปโขลกให้เข้ากัน
2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่น้ำพริกที่โขลกไว้ลงไปผัดจนน้ำพริกเริ่มหอม จากนั้นใส่ไก่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุกก็โรยผงกะหรี่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ค่อยๆ ใส่หัวกะทิลงไป (แบ่งหัวกะทิไว้ประมาณ ¼ ถ้วย สำหรับโรยหน้าตอนเสริฟ) ผัดและใส่กะทิลงไปเรื่อยๆ
จนไก่สุก จึงใส่กะทิลงไปจนหมด
4. เคี่ยวน้ำแกงต่อไปประมาณ 10 นาที ก็เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ปิดเตาได้

วิธีเตรียมเครื่องเคียง
1. ปลอกเปลือกหัวหอมแดง นำไปล้างน้ำให้สะอาด นำหัวหอมแดงมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ส่วนผักกาดดองนำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
2. เปิดเตาที่ไฟแรง ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 3 ถ้วย ต้มจนน้ำเดือด จึงเอาผักกาดดองที่หั่นไว้ใส่ลงไปต้มผักกาดดองประมาณ 10 นาที ก็เทน้ำออก สะเด็ดน้ำขึ้นมาใส่ชาม เติมน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วพักไว้
3. เปิดเตาที่ไฟแรง ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 5 ถ้วย ต้มจนน้ำเดือด จึงนำเส้นบะหมี่ใส่ลงไป(ก่อนใส่เส้นให้กระจายเส้นออกจากกันก่อน) ต้มจนเส้นสุก ก็ตักขึ้นล้างด้วยน้ำเย็น สะเด็ดน้ำ แล้วคลุกด้วยน้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นก้อน พักไว้
4. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะรอจนน้ำมันร้อนก็ใส่พริกป่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปผัดประมาณ 1 นาที ปิดเตาและตักพริกผัดใส่ถ้วยพักไว้
5. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ ½ ถ้วย รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่บะหมี่ประมาณ ½ ก้อนลงไปทอดจนบะหมี่เหลืองกรอบ ปิดเตาและตักบะหมี่ขึ้นมาวางบนกระดาษซับน้ำมันและพักไว้
6. หัวกะทิ ¼ ถ้วยที่แบ่งเอาไว้ ให้นำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที และล้างผักชีให้สะอาด เด็ดเป็นใบๆ เตรียมไว้สำหรับโรยหน้า

วิธีเสิร์ฟ
ตักเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้ใส่ชาม ตักน้ำแกงข้าวซอยราดลงบนเส้น ใส่ผักกาดดองซอยและหัวหอมแดงหั่นเต๋า โรยด้วยบะหมี่ทอดกรอบ ใบผักชี และหัวกะทิ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟพร้อมมะนาวและพริกป่นผัดน้ำมันได้เลย